โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
บทที่ 3 ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา
------------------------------------------------------------------------------
•แผ่นดินไหว (Earthquake)
1.เกิดขึ้นได้อย่างไร???
1.1เป็นผลจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทำให้หินเปลี่ยนลักษณะและถ่ายโอนพลังงานอย่างรวดเร็วให้กับชั้นหินที่อยู่ติดกันในรูปของ คลื่นไหวสะเทือน(seismic wave)
1.2จุดกำเนิดการไหวสะเทือนของแผ่นดินหรือเกิดแผ่นดินไหว เรียกว่า ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว(focus)
1.4แบ่งศูนย์เกิดแผ่นดินไหวตามระดับความลึกได้ 3 ระดับ
1.4.1ระดับตื้น เกิดที่ความลึกน้อยกว่า70กิโลเมตรจากผิวโลก
1.4.2ระดับปานกลาง เกิดที่ความลึกระหว่าง70-300กิโลเมตรจากผิวโลก
1.4.3ระดับลึก เกิดที่ความลึกมากว่า300กิโลเมตรจากผิวโลก
1.5อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การระเบิดของภูเขาไฟ หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์
2.1คลื่นในตัวกลาง (Body Wave) แบ่งได้อีก 2 ชนิด
2.1.1คลื่นปฐมภูมิ หรือคลื่นP
-เป็นคลื่นตามยาว เคลื่อนที่ทิศเดียวกับคลื่น มีความเร็วมาก เคลื่อนที่ผ่านได้ทุกชั้น
2.1.2คลื่นทุติยภูมิ หรือคลื่นS
-เป็นเคลื่อนตามขวาง เคลื่อนที่ตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของคลื่น ความเร็วน้อย ผ่านได้เฉพาะของแข็ง
2.2คลื่นพื้นผิว (Surface waves) เคลื่อนที่บนพื้นผิวโลก ช้ากว่าคลื่นในตัวกลาง แบ่งได้ 2 ชนิด
2.2.1คลื่นเลิฟ (love wave) หรือคลื่นL
-ทำให้อนุภาคตัวกลางสั่นแนวราบ ทิศทางตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของคลื่น
-ทำความเสียหายกับรากฐานของอาคาร และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
2.2.2คลื่นเรย์ลี (rayleigh wave) หรือคลื่นR
-ทำให้อนุภาคตัวกลางเคลื่อนที่วงรีในแนวดิ่งทิศทางเดียวกับคลื่น
-ทำให้พื้นผิวโลกสั่นขึ้นลง
เครื่องวัดความไหวสะเทือน (Seismograph) ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ปากกาซึ่งติดตั้งบนตุ้มน้ำหนักซึ่งแขวนห้อยติดกับลวดสปริง และม้วนกระดาษบันทึกการสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว (Seismogram) โดยที่ทั้งสองส่วนติดตั้งบนแท่นซึ่งยืดอยู่บนพื้นดิน เครื่องวัดความไหวสะเทือนทำงานโดยอาศัยหลักการของความเฉี่อย (Inertia) ของลวดสปริงที่แขวนลูกตุ้ม เมื่อแผ่นดินยกตัวลวดสปริงจะยืดตัว และถ้าหากแผ่นดินจมตัวลวดสปริงก็จะหดขึ้น
4.แนวรอยต่อที่สำคัญที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว
4.1แนวรอยต่อที่เกิดล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกกันว่า วงแหวนแห่งไฟ(Ring of Fire) 80% ได้แก่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ด้านตะวันตกของเม็กซิโกและด้านตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวทั้งตื่น ปานกลาง ลึก
4.2แนวรอยต่อภูเขาแอลป์ในทวีปยุโรปและภูเขาหิมาลัยในทวีปเอเชีย 15% ได้แก่ พม่า อัฟกานิสถาน อิหร่าน ตุรกี และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวตื้นและปานกลาง
4.3แนวรอยต่ออื่นๆ 5% บริเวณสันเขาใต้มหาสมุทร ได้แก่ เทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก สันเขาใต้มหาสมุทรอินเดียและอาร์กติก มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวระดับตื้น
5.ความรุนแรงของแผ่นดินไหว
5.1 ใช้มาตราเมอร์คัลลี (Mercalli scale) ซึ่งกำหนดจากความรู้สึกหรือการตอบสนองของผู้คนโดยจำแนกได้ดังนี้
I มนุษย์ไม่รู้สึก ตรวจวัดได้เฉพาะเครื่องมือ
II รู้สึกได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่นิ่งกับที่ สิ่งของแกว่งไกวเล็กน้อย
III คนอยู่ในบ้านรู้สึกได้เหมือนรถบรรทุกแล่นผ่าน
IV คนส่วนใหญ่รู้สึกได้เหมือนรถบรรทุกแล่นผ่าน
V ทุกคนรู้สึกได้ สิ่งของขนาดเล็กเคลื่อนที่
VI คนเดินเซ สิ่งของขนาดใหญ่เคลื่อนที่
VII คนยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ อาคารเสียหายเล็กน้อย
VIII อาคารเสียหายปานกลาง
IX อาคารเสียหายอย่างมาก
X อาคารถูกทำลายพร้อมฐานราก
XI แผ่นดินแยกถล่มและเลื่อนไหล สะพานขาด รางรถไฟบิดงอ ท่อใต้ดินชำรุดเสียหาย
XII สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดถูกทำลาย พื้นดินเป็นลอนคลื่น
5.2ใช้มาตราริกเตอร์ มาตราวัดขนาดแผ่นดินไหวของริกเตอร์ (The Richter Magnitude Scale) พัฒนาโดย ชาร์ล เอฟ ริกเตอร์ นักธรณีวิทยาชาวอเมริกาเมื่อปี พ.ศ.2478 เป็นมาตราที่วัดขนาดของแผ่นดินไหว ซึ่งบันทึกได้จากเครื่องวัดคลื่นไหวสะเทือนโดยใช้หน่วย “ริกเตอร์” (Richter)
6.ประเทศไทยกับแผ่นดินไหว
-สาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวส่วนมากเป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่นอกประเทศแล้วส่งแรงสั่นสะเทือนมายังประเทศไทย มีกำเนิดจากตอนใต้ของจีน พม่า ลาว ทะเลอันดามัน และตอนเหนือของเกาะสุมาตรา
-รวมไปถึงแผ่นดินไหวเกิดจากรอยเลื่อนมีพลัง (active fault) ส่วนมากอยู่ในภาคเหนือและตะวันตก
☺-----------------------------------•----------------------♥----------------♪-----------------♫----
1.การระเบิดของภูเขาไฟ
-เกิดจากการปะทุของแมกมา แก๊สและเถ้าจากใต้เปลือกโลก ก่อนการระเบิดมักมีสัญญาณบอก
2.ผลของภูเขาไฟระเบิดที่มีต่อลักษณะภูมิประเทศ
-ลักษณะรูปร่างของพื้นที่ภูเขาไฟจะเปลี่ยนไป เช่น ที่ราบสูงบะซอลต์
-ลักษณะที่เกิดจากการทำลายทรุดตัวของภูเขาไฟ ทำให้พื้นที่ภูเขาไฟหายไป เช่นภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ภูเขาไฟซันเซต หรือเปลี่ยนไป บางครั้งจะพบว่าปล่องภูเขาไฟจะขยายใหญ่ขึ้น เช่น ภูเขาไฟฟูจิ
-ภูเขาไฟรูปโล่ เช่น มัวนาลัวในฮาวาย
-ภูเขาไฟรูปกรวย สวยงาม เช่นภูเขาไฟฟูจิ เซนต์เฮเลนส์ มายอน
3.ภูเขาไฟในประเทศไทย
-ส่วนใหญ่มีรูปร่างไม่ชัดเจน
-ที่มีรูปร่างชัดเจนสุด(มองเห็นเพียงด้านเดียว) ได้แก่ ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ภูเขาไฟภูพระอังคาร และภูเขาไฟพนมรุ้ง
2.1.1คลื่นปฐมภูมิ หรือคลื่นP
-เป็นคลื่นตามยาว เคลื่อนที่ทิศเดียวกับคลื่น มีความเร็วมาก เคลื่อนที่ผ่านได้ทุกชั้น
2.1.2คลื่นทุติยภูมิ หรือคลื่นS
-เป็นเคลื่อนตามขวาง เคลื่อนที่ตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของคลื่น ความเร็วน้อย ผ่านได้เฉพาะของแข็ง
2.2คลื่นพื้นผิว (Surface waves) เคลื่อนที่บนพื้นผิวโลก ช้ากว่าคลื่นในตัวกลาง แบ่งได้ 2 ชนิด
2.2.1คลื่นเลิฟ (love wave) หรือคลื่นL
-ทำให้อนุภาคตัวกลางสั่นแนวราบ ทิศทางตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของคลื่น
-ทำความเสียหายกับรากฐานของอาคาร และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
-ทำให้อนุภาคตัวกลางเคลื่อนที่วงรีในแนวดิ่งทิศทางเดียวกับคลื่น
-ทำให้พื้นผิวโลกสั่นขึ้นลง
3.การหาจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว
เครื่องวัดความไหวสะเทือน (Seismograph) ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ปากกาซึ่งติดตั้งบนตุ้มน้ำหนักซึ่งแขวนห้อยติดกับลวดสปริง และม้วนกระดาษบันทึกการสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว (Seismogram) โดยที่ทั้งสองส่วนติดตั้งบนแท่นซึ่งยืดอยู่บนพื้นดิน เครื่องวัดความไหวสะเทือนทำงานโดยอาศัยหลักการของความเฉี่อย (Inertia) ของลวดสปริงที่แขวนลูกตุ้ม เมื่อแผ่นดินยกตัวลวดสปริงจะยืดตัว และถ้าหากแผ่นดินจมตัวลวดสปริงก็จะหดขึ้น
4.แนวรอยต่อที่สำคัญที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว
4.1แนวรอยต่อที่เกิดล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกกันว่า วงแหวนแห่งไฟ(Ring of Fire) 80% ได้แก่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ด้านตะวันตกของเม็กซิโกและด้านตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวทั้งตื่น ปานกลาง ลึก
บริเวณวงแหวนแห่งไฟ |
4.3แนวรอยต่ออื่นๆ 5% บริเวณสันเขาใต้มหาสมุทร ได้แก่ เทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก สันเขาใต้มหาสมุทรอินเดียและอาร์กติก มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวระดับตื้น
5.ความรุนแรงของแผ่นดินไหว
5.1 ใช้มาตราเมอร์คัลลี (Mercalli scale) ซึ่งกำหนดจากความรู้สึกหรือการตอบสนองของผู้คนโดยจำแนกได้ดังนี้
I มนุษย์ไม่รู้สึก ตรวจวัดได้เฉพาะเครื่องมือ
II รู้สึกได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่นิ่งกับที่ สิ่งของแกว่งไกวเล็กน้อย
III คนอยู่ในบ้านรู้สึกได้เหมือนรถบรรทุกแล่นผ่าน
IV คนส่วนใหญ่รู้สึกได้เหมือนรถบรรทุกแล่นผ่าน
V ทุกคนรู้สึกได้ สิ่งของขนาดเล็กเคลื่อนที่
VI คนเดินเซ สิ่งของขนาดใหญ่เคลื่อนที่
VII คนยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ อาคารเสียหายเล็กน้อย
VIII อาคารเสียหายปานกลาง
IX อาคารเสียหายอย่างมาก
X อาคารถูกทำลายพร้อมฐานราก
XI แผ่นดินแยกถล่มและเลื่อนไหล สะพานขาด รางรถไฟบิดงอ ท่อใต้ดินชำรุดเสียหาย
XII สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดถูกทำลาย พื้นดินเป็นลอนคลื่น
5.2ใช้มาตราริกเตอร์ มาตราวัดขนาดแผ่นดินไหวของริกเตอร์ (The Richter Magnitude Scale) พัฒนาโดย ชาร์ล เอฟ ริกเตอร์ นักธรณีวิทยาชาวอเมริกาเมื่อปี พ.ศ.2478 เป็นมาตราที่วัดขนาดของแผ่นดินไหว ซึ่งบันทึกได้จากเครื่องวัดคลื่นไหวสะเทือนโดยใช้หน่วย “ริกเตอร์” (Richter)
ขนาดแผ่นดินไหว (ริกเตอร์) ประเภท
<3.0 แผ่นดินไหวขนาดเล็กมาก (Micro)
3.0 - 3.9 แผ่นดินไหวขนาดเล็ก (Minor)
4.0 - 4.9 แผ่นดินไหวขนาดค่อนข้างเล็ก (Light)
5.0 - 5.9 แผ่นดินไหวขนาดปานกลาง (Moderate)
6.0 - 6.9 แผ่นดินไหวขนาดค่อนข้างใหญ่ (Strong)
7.0 - 7.9 แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ (Major)
>8.0 แผ่นดินไหวใหญ่มาก (Great)
6.ประเทศไทยกับแผ่นดินไหว
-สาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวส่วนมากเป็นผลมาจากการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่นอกประเทศแล้วส่งแรงสั่นสะเทือนมายังประเทศไทย มีกำเนิดจากตอนใต้ของจีน พม่า ลาว ทะเลอันดามัน และตอนเหนือของเกาะสุมาตรา
-รวมไปถึงแผ่นดินไหวเกิดจากรอยเลื่อนมีพลัง (active fault) ส่วนมากอยู่ในภาคเหนือและตะวันตก
☺-----------------------------------•----------------------♥----------------♪-----------------♫----
•ภูเขาไฟ (Volcano)
โครงสร้างภูเขาไฟ |
ภูเขาเกิดจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะของเปลือกโลก ซึ่งแผ่นธรณีทวีปดันกันทำให้ชั้นหินคดโค้ง (Fold) เป็นรูปประทุนคว่ำและประทุนหงายสลับกัน ภูเขาที่มียอดแบนราบอาจเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกตามบริเวณรอยเลื่อน (Fault) แต่ภูเขาไฟ (Volcano) มีกำเนิดแตกต่างจากภูเขาทั่วไป ภูเขาไฟเกิดจากการยกตัวของแมกมาใต้เปลือกโลกปัจจุบันทั่วโลกมีภูเขาไฟมีพลังประมาณ 1500 ลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณวงแหวนแห่งไฟ
-ความพรุนของหินภูเขาไฟขึ้นอยู่กับการเย็นตัวของลาวา ตัวอย่างหินภูเขาไฟ เช่น บะซอลต์ พัมมิส แก้ว ทัฟฟ์ ออบซิเดียน
-ความพรุนของหินภูเขาไฟขึ้นอยู่กับการเย็นตัวของลาวา ตัวอย่างหินภูเขาไฟ เช่น บะซอลต์ พัมมิส แก้ว ทัฟฟ์ ออบซิเดียน
บะซอลต์ |
ออบซิเดียน |
พัมมิส |
แก้ว |
ทัฟฟ์ |
1.การระเบิดของภูเขาไฟ
-เกิดจากการปะทุของแมกมา แก๊สและเถ้าจากใต้เปลือกโลก ก่อนการระเบิดมักมีสัญญาณบอก
2.ผลของภูเขาไฟระเบิดที่มีต่อลักษณะภูมิประเทศ
-ลักษณะรูปร่างของพื้นที่ภูเขาไฟจะเปลี่ยนไป เช่น ที่ราบสูงบะซอลต์
-ลักษณะที่เกิดจากการทำลายทรุดตัวของภูเขาไฟ ทำให้พื้นที่ภูเขาไฟหายไป เช่นภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ภูเขาไฟซันเซต หรือเปลี่ยนไป บางครั้งจะพบว่าปล่องภูเขาไฟจะขยายใหญ่ขึ้น เช่น ภูเขาไฟฟูจิ
-ภูเขาไฟรูปโล่ เช่น มัวนาลัวในฮาวาย
-ภูเขาไฟรูปกรวย สวยงาม เช่นภูเขาไฟฟูจิ เซนต์เฮเลนส์ มายอน
ภูเขาไฟฟูจิ |
ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ |
ภูเขาไฟมายอน |
3.ภูเขาไฟในประเทศไทย
-ส่วนใหญ่มีรูปร่างไม่ชัดเจน
-ที่มีรูปร่างชัดเจนสุด(มองเห็นเพียงด้านเดียว) ได้แก่ ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ภูเขาไฟภูพระอังคาร และภูเขาไฟพนมรุ้ง
ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู |
ภูเขาไฟภูพระอังคาร |
4.โทษของภูเขาไฟ
-ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
-ส่งผลให้ภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง
5.ประโยชน์ของภูเขาไฟ
-ดินที่เกิดจากการผุพังสลายตัวของเศษหินภูเขาไฟบริเวณนั้น จะมีแร่ธาตุต่างๆที่เป็นอาหารของพืชมากมาย กลายเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกและอุตสาหกรรม
-อัญมณี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น